ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องประดับทองคำ

สิ่งสวยงามต่างๆ ที่หนุ่มสาวมักจะนิยมสวมใส่นั้นนอกจากเสื้อผ้าก็คงจะเป็น “เครื่องประดับ”นั้นเองครับ ซึ่งท่านทราบกันหรือไม่ครับว่าตัวเรือนเครื่องประดับที่เป็นส่วนที่แข็งแรงนั้นหลักๆ แล้วจะทำมาจาก “เงิน” และ “ทองคำ” นั้นเองครับ วันนี้เราจึงอยากพาท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านไป “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องประดับทองคำ” กันสักหน่อยครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับผม

ทำความรู้จักกับ ทองคำ

ทองคำ คือธาตุโลหะที่มีค่าสูง ลักษณะทางกายภาพจะมีสีเหลืองทอง มันวาวเนื้ออ่อนนุ่ม มีคุณสมบัติในด้านของการทนการผุกร่อน ไม่ทำปฎิกริยากับอากาศ และไม่เป็นสนิมนิยมมาทำเป็นเครื่องประดับที่มีค่า สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน และอื่นๆหรือ ส่วนใหญ่จะนำมาประดับด้วยอัญมณีแบบต่างๆเช่นเพชรหรือพลอยเมื่อมีการนำมาประดับเพชรหรือพลอย เมื่อทองมีลักษณะเป็นธาตุที่อ่อนนุ่มจึงต้องทำให้มีส่วนผสมที่มากขึ้นเพื่อความแข็งแรง สวยงาม เข้ามาผสมนั้นเองครับ

ความบริสุทธิ์ของทอง

มาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำที่ใช้กันทั่วโลก นิยมใช้กันทั่วโลก มีอยู่ 3 ระบบ คือ

1. ระบบเปอร์เซ็นต์ แบบที่เราคุ้นเคยและใช้กันอยู่ในประเทศไทย เช่น ทองคำ 99.99% ทองคำแท่ง 96.5%  90% 

2. ระบบไฟน์เนส ซึ่งจะคล้ายกับระบบเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีจุดทศนิยม โดยใช้ตัวเลขเรียงกันสามตัวไปเลย ระบบนี้จะใช้ในสิงคโปร์ ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ทอง 999 เท่ากับ 99.99%  ทอง 916 เท่ากับ 91.6% เป็นต้น

 3. ระบบกะรัต (Karat ) หรือที่เรียกย่อๆ สั้นๆ จนหลายคนอาจจะร้อง อ๋อ ! ก็คือทอง K คำว่ากะรัตในทองคำ จะคนละความหมายกับ Carat (กะรัต) ที่เป็นหน่วยในการวัดระดับของน้ำหนักอัญมณีต่างๆ อย่างเช่น เพชร พลอย ออกเสียงเหมือนกันแต่เขียนต่างกัน อย่าเพิ่งสับสนนะคะ ระบบนี้จะใช้กันในบางประเทศในยุโรป ซึ่งสามารถแจงรายละเอียดได้ดังนี้

• ทอง 24K ก็จะเท่ากับทองคำบริสุทธิ์ 99.99%
• ทอง 22K เท่ากับทอง 91.6%
• ทอง 18K เท่ากับทอง 75%
• ทอง 14K เท่ากับทอง 58.3%

• 10K เท่ากับทอง 41.6%

•ทอง 9K เท่ากับทอง 37.5%

แต่ในประเทศไทยนั้นจะมีค่าบริสุทธิ์ 96.6% แปลงไปเป็นหน่วย Karat ก็จะเท่ากับ 23.16K  ร้านจิวเวลรี่ในบ้านเรานิยมใช้ทอง 18K หรือทอง 75% เพราะมีความแข็งแรงกว่าทองคำเปอร์เซนต์สูงๆ ที่มักอ่อนตัว เหมาะกับการตีโปงทำลวดลายตกแต่งเครื่องประดับนั้นเองครับ

ระหว่างทองคำ 96.5% และ 99.9% แบบที่เหมาะแก่การนำไปทำเครื่องประดับมากกว่า

ปกติแล้วตามมาตรฐานทองคำเมืองไทยจะอยู่ที่ 96.5 % แปลว่า มีทองคำบริสุทธิ์อยู่จริงๆ ที่ 96.5% ส่วนต่าง 3.5% คือส่วนประกอบอื่นๆ เช่น แร่เงินกับแร่ทองแดงหรือโลหะต่างๆ  และทองคำ 96.5% มีความแข็งแรงและให่ความทนทานที่มากกว่าทองคำ 99.9 % จึงนิยมนำมาผลิตเป็นทองคำแท่ง และ ทองคำรูปพรรณ อาทิเช่น สร้อยคอทองคำ,สร้อยข้อมือทองคำ,แหวนทองคำ,จี้ทองคำ เป็นต้นครับ

ราคาทองคำในตลาดขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?

●ความต้องการซื้อทองคำเพื่อใช้ในงานฝีมือต่างๆ หรือมักจะถูกซื้อเป็นของฝาก ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในช่วงตรุษจีน ราคาทองคำมักมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ก็มีที่มาจากความต้องการซื้อทองคำจำนวนมากในขณะนั้น

●นโยบายการเงินของรัฐและอัตราดอกเบี้ย เพราะการที่ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นก็จะสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังดีกำลังร้อนแรง ราคาทองคำก็จะมีแนวโน้มปรับตัวลง เพราะน่าดึงดูดน้อยกว่าตลาดการเงินการลงทุนอื่น ๆ แต่กลับกันหากเศรษฐกิจไม่ดี ตลาดการเงินการลงทุนผันผวน ทองคำก็มักราคาสูงขึ้น เพราะใครๆ ต่างก็หันกลับมามองว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากที่สุด

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องประดับทองคำ” ที่เราได้รวบรวมมากฝากท่านผู้อ่านเพื่อเก็บไว้เป็นความรู้ติดตัวกันเอาไว้ครับ หวังว่าสักวันหนึ่งอาจมีประโยชน์กับท่านก็เป็นได้ครับ